บทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวร บทสวดเพื่อปลดเปลี้องตนออกจากความอาฆาตพยาบาท ความโกรธแค้นชิงชัง ที่ตนมีต่อผู้อื่น และที่ผู้อื่นมีต่อตน
มหาสติปัฏฐานสูตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง
สติปัฏฐานสูตร
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธภาษิตนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไป
อันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ
บทสวดมนต์พิจารณาสภาวธรรม
รวมบทสวดมนต์พิเศษ หลังทำวัตรเช้า-เย็น เป็นสวดพิจารณาสภาวธรรม ฉบับแปล เพื่อให้ผู้สวดได้เข้าใจในบทสวดและพิจารณาหลักธรรมตาม
ไหว้พระเคราะห์ สืบชะตา ต่ออายุ
บทอุณหิสสวิชัย ป้องกันภัยต่างๆ และป้องกันการตายก่อนอายุขัย คาถาเสริมบารมี เมื่อสวดภาวนาแล้วจะทำให้บังเกิดลาภผล มีสุข ร่ำรวย บารมีแก่กล้า เจริญรุ่งเรือง ไม่ตกต่ำอาภัพอับจน บทไหว้เทพพระเคราะห์
พระคาถาอาการวัตตสูตร
บทสวดพรรณนาลักษณะพิเศษที่เกิดแต่พระบารมีของพระพุทธเจ้า ถือเป็นสุดยอดบทสวดมหามงคล ผู้ใดท่องบ่นสวดภาวนาด้วยจิตศรัทธาเป็นประจำ จะปรารถนาพุทธภูมิ พระปัจเจกภูมิ พระอัครสาวกภูมิ
บทสวดคาถาธารณปริตร
พระวิรัตน์ อัคคธัมโม ได้มีโอกาสออกวิเวก เจริญรุกขมูลธุดงค์ทางภาคเหนือ และชายแดนฝั่งพม่าเขตติดต่อพรหมแดนในแวดวงหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่าง ๆ นานเกือบ 3 เดือน ขณะที่ปักกลดพักที่ดอยพระพุทธบาทห้วยต้ม
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
เปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก (จังหวัดพิษณุโลก) มีคำกล่าวในหนังสือนว่า ผู้ใด มีไว้ประจำบ้านเรือน มีอานิสงส์ยิ่งกว่าได้สร้างพระเจดีย์ทองคำสูง เทียมเทวโลก และป้องกันภยันตรายต่างๆ ทำมาหากินเจริญ
มหาสมัยสูตร
จึงพากันมาประชุมกล่าวคาถาสรรเสริญพระพุทธเจ้า ทีนั้นพระพุทธเจ้าได้ทรงเอ่ยนามของเหล่าเทวดาที่เป็นหัวหน้าและบริวารทั้งหมดให้หมู่ภิกษุได้รับรู้ การประชุมใหญ่ของเหล่าเทวดาเช่นนี้ เรียกว่า มหาสมัยยุคของพระพุทธเจ้า
บทนโมการอัฏฐกคาถา (นะโม ๘)
เป็นบทสวดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงพระนิพนธ์ขึ้น เพื่อใช้เป็นบทสวดแสดงความนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือมีทั้งหมด ๘ บรรทัด