แม้ไม่ได้ทำต่อหน้า สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่ห้อง สวดมนต์ ทำจิตให้เป็นสมาธิ ตั้งใจอธิษฐาน ก็สัมฤทธิ์ได้เช่นเดียวกัน
พิธีขอขมากรรมบิดามารดา
บิดามารดาถือเป็นบุคคลที่มีบุญคุณอันสูงสุดของลูกๆ และเป็นหน้าที่ของลูกทุกคนต้องตอบแทนพระคุณให้ถึงที่สุด แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างด้วยการเสด็จไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดาตลอด ๓ เดือนโดยมิหยุดพัก ทั้งนี้ เพื่อยกย่องและทดแทนพระคุณของพระมารดา
ลูกคนใดที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่แม้เพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย ทางวาจา หรือทางความคิดก็ตาม ถือว่าได้สร้างบาปมหันต์ ลูกที่ทำให้พ่อแม่น้ำตาตกเท่ากับทำให้พ่อแม่ตกนรก เป็นบาปหนักอย่างยิ่ง หากไม่ทำการขอขมาให้ท่านอโหสิกรรมแล้วไซร้ ชีวิตก็หาความเจริญมิได้เพราะมีบาปกรรมติดตัวมีชั่วติดตน
ดังนั้นลูกที่หวังความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตจึงควรกล่าวขอขมากรรม กับพ่อแม่ และหมั่นกตัญญูกตเวทีต่อท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนเริ่มขอขมาให้จัดเตรียมของดังนี้
๑) ธูปเทียนแพ ๑ ชุด
๒) มาลัย ๑ พวง
๓) น้ำสำหรับล้างเท้า+ผ้าสำหรับเช็ดเท้า
๔) เงินใส่ซอง
ก่อนเริ่มการขอขมา ให้จุดธูปกลางแจ้ง ๕ ดอกแทนเทพในทิศทั้ง ๔ และทิศเบื้องบน หรือ ๑๖ ดอก แทนเทพชั้นครู ตั้งจิตกล่าวอธิษฐานว่า
“ข้าพเจ้า ขอน้อมบูชาแด่องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมพระธรรมและพระสงฆ์ วันนี้ ข้าพเจ้า…………………………. มีความตั้งใจจะทำพิธี กราบขอขมาอโหสิกรรม ต่อบิดามารดา ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ ได้โปรดลบันดาลให้การขอขมากรรมในครั้งนี้ จงบรรลุผลสำเร็จ ตามที่ปรารถนาด้วยเถิด.
ข้าพเจ้า ขออัญเชิญเทพเทวดาทั้งหลาย ที่สถิต ณ สถานที่แห่งนี้ และที่สถิต ณ ทิพยสถานวิมานเลิศทั้งหลาย พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระยายมราช พระภูมิเจ้าที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย วันนี้ เวลานี้ ข้าพเจ้าตั้งใจจะทำพิธี ขอขมาอโหสิกรรมแก่บิดามารดา. ขอท่านได้เป็นสักขีพยาน ในกรรมครั้งนี้ด้วยเถิด”
ลำดับจากนั้น ให้พ่อแม่นั่งบนเก้าอี้ ล้างเท้าของท่าน เช็ดด้วยผ้าสะอาด จากนั้นถือเทียนแพพร้อมมาลัย คุกเข่าต่อหน้าท่าน กล่าวขอขมา ดังนี้….
“กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง กรรมอันใด ที่ลูกได้เคยกระทำล่วงเกินต่อบิดามารดา ด้วยการกระทำทางกาย มี….(ระบุกรรมทางกายที่นึกได้ เช่น เคยแสดงกิริยาไม่พอใจ กระทืบเท้า ขว้างปาสิ่งของ เคยประชดประชัน ทุบตี ผลักไส) ก็ดี
ด้วยการกระทำทางวาจา มี…(ระบุกรรมทางวาจาที่ตนเคยทำไม่ดีกับพ่อแม่ที่นึกได้ เช่น เคยพูดจาดูหมิ่น ตัดพ้อต่อว่า ดุด่าว่าร้าย โกหกหลอกลวง นินทา โต้เถียงคำไม่ตกฟาก กล่าวใช้ให้ทำในสิ่งนั้นสิ่งนี้) ก็ดี
ด้วยการกระทำทางใจ ทางความคิด มี… (ระบุกรรมที่เคยคิดไม่ดีกับพ่อแม่ที่นึกได้ เช่น เคยคิดดูหมิ่น เคยนึกรำคาญ เคยนึกตำหนิติเตียน เคยนึกโกรธ นึกเกลียดชัง เคยคิดในแง่ไม่ดี คิดด่าว่า คิดโกหกหลอกลวง) ก็ดี
อันเป็นเหตุให้พ่อกับแม่ เจ็บซ้ำน้ำใจ เสียใจ ทุกข์ใจ ร้องไห้เสียน้ำตา ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี ทั้งที่เจตนาก็ดี มิได้เจตนาก็ดี ทั้งในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี
บัดนี้ เวลานี้ ลูกสำนึกผิดแล้ว จึงกราบขอขมากรรม ในสิ่งที่ได้ทำล่วงเกินทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น ขอให้บิดามารดา ได้โปรดยกโทษ อโหสิกรรม ซึ่งโทษล่วงเกินทั้งหมดทั้งสิ้น แก่ลูกคนนี้ด้วยเถิด”
เสร็จแล้ว ยกธูปเทียนแพ มาลัย พร้อมซองเงินมอบให้พ่อมกับแม่ ก้มกราบเท้าท่าน ๓ ครั้ง จากนั้นพ่อกับแม่กล่าวอโหสิกรรมให้กับลูก และอำนวยอวยพรให้ลูกมีแต่ความสุขความเจริญ เป็นอันเสร็จพิธี
รวบรวมเรียบเรียงโดย
ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัทธ์
น.ธ.เอก, ป.ธ.๗, พธ.บ. (ภาษาไทย)
บรรณาธิการแห่งสำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์
วิธีขอขมากรรมบิดามารดาจากหนังสือ สวดมนต์ก่อนนอน