หลวงพ่อฤๅษีลิงดำแนะให้ภาวนาวันละ ๓ จบ ๙ จบ
ทำให้เจริญทรัพย์ เงินทองไม่ขาดมือ
เคล็ดลับสวดคาถาเงินล้านให้ได้ผล
โดย..พระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร.
วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
เมื่อปี ๒๕๒๘ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง (พระราชพรหมยาน) ท่านได้ขอให้ บรรดาลูกหลานได้ใช้พระคาถาเงินล้าน เพื่อเสริมสร้างความคล่องตัวในการดำเนินชีวิต พระท่านก็อนุญาตให้ เราจะสังเกตได้ว่า ใครก็ตามที่ทำพระคาถาเงินล้านเป็นกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ ความขัดข้องในการดำเนินชีวิตจะมีน้อยกว่าคนอื่นเขา ขอยืนยันคำว่า “จริงจังและสม่ำเสมอ” เพราะว่าเรื่องคาถาเป็นพื้นฐานของอภิญญา คนจะเป็นอภิญญาได้จะต้องมีความจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำๆ ทิ้งๆ เมื่อท่าน
ทั้งหลายได้ทำจริงจังและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะทำในจำนวนที่มาก อย่างเช่นสวดภาวนาวันละ ๑๐๘ จบ ก็จะมีความสะดวกคล่องตัวกว่าคนอื่น
สำหรับอาตมาตั้งแต่ได้พระคาถามา ก็เริ่มต้นภาวนาวันละ ๙ จบ จากนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นวันละ ๓๐ จบ…จากที่ใช้ ๓๐ จบแล้วรู้สึกว่าเวลายังเหลืออีกเยอะ ก็เพิ่มเป็น ๓๐๐ จบ…ไล่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็น ๓๖๐ จบ.. ๖๐๐ จบ.. ๙๐๐ จบ.. ๑,๒๐๐ จบ..
การท่องใช้วิธีท่องอย่างช้าๆ โดยจับลมหายใจภาวนาไปด้วย เป็นการเน้นคุณภาพ ไม่ใช่จ้ำๆ ให้จบไป สักแต่ว่าเอาปริมาณ เรื่องของคาถา
ถ้าทำด้วยความเคารพจริงจังและสม่ำเสมอแล้ว ไม่เกิน ๒ เดือนผลก็จะเกิดขึ้นพระปัจเจกพุทธเจ้าท่านมาโปรดบอกว่า “ถ้าภาวนาคาถาเงินล้านเป็นกรรมฐาน ทรงอารมณ์โดยไม่เคลื่อนเลยวันละ ๑ ชั่วโมง จะสร้างโบสถ์กี่หลังก็ทำได้”
ญาติโยมทั้งหลาย แม้จะทราบว่าคาถาเงินล้านเป็นของดี แต่ไม่ค่อยจะทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ค่อยต่อเนื่อง บางคนก็มาบ่นบอกว่ามีความลำบากในการทำมาหากินมาก อาตมาบอกคาถาเงินล้านให้เอาไปใช้ เขาบอกว่าเขาภาวนาเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ถามว่า “โยมภาวนาวันละกี่จบ ?” โยมบอกว่า “๑ จบ” อาตมาก็อยากจะบอกว่า “จบเห่” คนอยากรวยทำงาน
วันละ ๑ นาที หนึ่งวันมี ๒๔ ชั่วโมง ทำงาน ๘ ชั่วโมงยังไม่ค่อยจะพอกินเลย จึงได้บอกให้ไปเพิ่มจำนวนการสวดขึ้น ทำให้จริงจังและสม่ำเสมอ โดยยึดจำนวน ๑๐๘ จบเป็นหลัก เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ใช่แต่บ้านเราเท่านั้น เศรษฐกิจโลกก็พลอยแย่ไปด้วย ถ้าหากว่าเราอาศัยบารมีพระ โดยยึดท่านเป็นที่พึ่งสุดท้ายจริงๆ ทำแบบมอบกายถวายชีวิตจริงๆ ขอยืนยันว่าทุกอย่างก็จะเป็นจริง
การภาวนาคาถาเงินล้าน ขณะที่ภาวนาทำไปๆ ก็จะรู้สึกเหมือนกับตัวเองดิ่งลึกลงไปๆ เรื่อยๆ จนในที่สุดลมหายใจก็ลึกเหมือนกับเหวที่ไม่มีก้น ญาติโยมทั้งหลายจำตรงนี้ไว้ให้แม่นๆ หากว่าภาวนาจับลงที่ศูนย์กลางกาย ตรงจุดพอเหมาะพอดี เราจะรู้สึกว่าดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ เหมือนเหว ที่ไม่มีก้น แบบที่หลวงปู่สด วัดปากน้ำท่านบอกว่า ให้หยุดลงตรงกลาง…ตรงกลางลงไป…ตรงกลางลงไป ก็จะไปได้เรื่อยๆ
อาตมาเองมีประสบการณ์หลายครั้งแล้วว่า ไม่ว่าจะภาวนาพระคาถาบทไหนก็ตาม ถ้าหากว่ามาถึงตรงจุดนี้ พระคาถาบทนั้นจะมีผลมาก เพราะฉะนั้น…พวกเราทุกคนทำให้ถูกตรงนี้ ถ้าทำถูก ไม่ต้องไปท่องเป็นร้อย เป็นพันจบก็ได้ เพราะว่าอารมณ์เต็มที่ก็จะไม่เกินนั้น
องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าต้องการให้พวกเราทุกคนเข้าใจถึงวิธีในการเจริญภาวนาคาถาเงินล้าน เพื่อให้เกิดผลสูงสุดที่จะพึงมีพึงได้ตามวาสนาบารมีของแต่ละคน ดังนั้น ขอให้ทุกท่านตั้งกายให้ตรง แต่ไม่ใช่เกร็ง เวลาหายใจเข้า นึกถึงคาถาเงินล้านที่เราภาวนา ไหลตามลมหายใจเข้าไปจนสุดลมหายใจของเรา ให้จิตจับอยู่ตรงนั้น นั่นคือศูนย์กลางกาย ให้ทุกคนขยับโยกหน้าโยกหลัง หาความตรงพอดีๆ ให้เป็นศูนย์กลางของเรา เสร็จแล้วคำภาวนาทั้งหมดของเราให้กำหนดจดจ่อลงตรงนั้น โดยใช้สมาธิเพียงเบาๆ ท่านที่ทรงสมาธิในระดับใช้งานได้จะเข้าใจตรงจุดนี้เลย แต่ถ้าหากท่านที่ยังไม่เข้าใจให้กำหนดความรู้สึกถึงลมหายใจที่แตะแผ่วๆ อยู่ตรงศูนย์กลางกาย แล้วภาวนาคาถาเงินล้านของเราไปเรื่อยๆ
องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ถ้าใครสามารถทำอย่างนี้ได้ต่อเนื่องกันวันละประมาณ ๑ ชั่วโมง จะมีความคล่องตัวมาก จะทำงานใหญ่ขนาดไหน เงินทองก็จะไม่ขาดมือ ยิ่งถ้าเป็นบุคคลที่ได้เคยสะสมทานบารมีมาตั้งแต่อดีต ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมามากเป็นพิเศษ
ดังนั้น ให้ทุกคนขยับหาจุดกึ่งกลางของเราที่พอดี โดยไม่ต้องเกร็งตัวเอง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดพร้อมลมหายใจและคาถาเงินล้านลงไปที่กึ่งกลาง ให้ออกมาจากกึ่งกลาง โดยให้สัมผัสเพียงเบาๆ เท่านั้น ให้รักษาอารมณ์ใจอย่างนี้ไว้ จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกหมดเวลา.
คาถาเงินล้าน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต
สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)
สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม.
พรหมา จะ มะหาเทวา สัพเพ ยักขา ปะลายันติ.
พรหมา จะ มะหาเทวา อะภิลาภา ภะวันตุ เม.
มะหาปุญโญ มะหาลาโภ ภะวันตุ เม.
มิเตพาหุหะติ.
พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหม.
สัมปะติจฉามิ เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤๅๆ.
พลานุภาพพระคาถาเงินล้าน
สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม.
พรหมา จะ มะหาเทวา สัพเพ ยักขา ปะลายันติ*.
(ท่อนนี้ มีอานุภาพปัดเป่าอุปสรรคที่ติดขัดให้หมดไป)
พรหมา จะ มะหาเทวา อะภิลาภา ภะวันตุ เม.
(ท่อนนี้ ขอพรหมและมหาเทพประทานลาภให้, คาถาเงินแสน)
มะหาปุญโญ มะหาลาโภ ภะวันตุ เม.
(ท่อนนี้ สวดให้เกิดบุญบารมีบันดาลให้เกิดลาภผลไม่ขาดสาย)
มิเตพาหุหะติ.
(เป็นคาถาเงินล้าน)
พุทธะ มะอะอุ นะโม พุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหม.
(ท่อนนี้ เป็นคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าสวดเพิ่มทรัพย์ที่มีให้งอกทวีคูณ)
สัมปะติจฉามิ. เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤๅๆ
(ท่อนนี้ มีอานุภาพเร่งลาภให้บังเกิดผลเร็วขึ้น)
ใจความสำคัญ : เป็นคาถาที่ได้จากนิมิตขณะทำสมาธิของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) แห่งวัดท่าซุง จ. อุทัยธานี โดยรวมเอา คาถามหาลาภ ของวัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา คาถาเงินแสน ที่เกิดจากนิมิตของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) และคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา มาผูกเป็นคาถาเงินล้าน
อานุภาพ : สวดต่อเนื่อง ๒ เดือน บุญบังเกิด ลาภผลมีมาไม่ขาดสาย ทำกิจอันใดมีความคล่องตัว สำเร็จดังปรารถนา
ประวัติ : พระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร. (พระอาจารย์เล็ก) วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ได้เล่าไว้ว่า เมื่อคราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) มาอยู่วัดท่าซุงใหม่ๆ (พ.ศ.๒๕๑๑) มีเงินติดยามมาร้อยเดียว เริ่มต้นท่านภาวนาคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นประจำทำให้มีความคล่องตัวขึ้น ต่อมาได้สวดคาถามหาลาภ สวดอยู่ ๓ ปี ทำให้วัดมีลาภมากขึ้น ต่อมาท่านได้คาถาเงินแสนมาสวด ทำให้ปีนั้นวัดได้เงินแสนจากการทอดกฐิน ต่อมาท่านได้รวมคาถาทั้ง ๓ เข้าด้วยกัน สวดภาวนาเป็นประจำ ปรากฏว่ามีเงินเข้าวัด รายรับดีขึ้นทุกทาง จากนั้นหลวงพ่อจึงได้พิมพ์คาถาแจกเป็นของขวัญปีใหม่ ในปี พ.ศ.๒๕๒๘
ที่มา : พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
ประยุกต์ใช้ : อย่าสวดด้วยความโลภ ให้สวดด้วยจิตที่เชื่อมั่นในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณของครูอาจารย์ สวดด้วยจิตที่เป็นสมาธิ เอาจริงเอาจัง ต่อเนื่องสม่ำเสมอ สวดวันละ ๙ จบ ๓๐ จบ หรือ ๑๐๘ จบ สวดมากจบลาภผลเห็นประจักษ์เร็วขึ้น การสวดให้สวดแบบเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ คือสวดแบบช้าๆ ไม่รีบเร่ง
รวบรวมเรียบเรียงโดย
ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัทธ์
น.ธ.เอก, ป.ธ.๗, พธ.บ. (ภาษาไทย)
บรรณาธิการแห่งสำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์